News & Promotions กระแสข่าวจากคุ้งน้ำเจ้าพระยา

 

บิ๊กปากคลองตลาดทุ่ม 1.5 พันล้านบาท ผุดโครงการริมน้ำ "ยอดพิมาน ริเวอร์วอล์ค" เตรียมปั้นสู่ฮับการสัญจร พร้อมผนึกอีก6โครงการยักษ์ริมแม่น้ำเจ้าพระยา  à¸ªà¸£à¹‰à¸²à¸‡à¹à¸¥à¸™à¸”์มาร์กทางน้ำแห่งใหม่ของประเทศไทย ดีเดย์เปิดให้บริการพฤศจิกายนนี้ วางเป้าคืนทุน 5 ปี

เฉลียว ปรีกรานเฉลียว ปรีกราน    à¸™à¸²à¸¢à¹€à¸‰à¸¥à¸µà¸¢à¸§ ปรีกราน ประธานกรรมการ กลุ่มบริษัท ตลาดยอดพิมาน จำกัด ผู้บริหารโครงการศูนย์การค้าริมแม่น้ำเจ้าพระยา "ยอดพิมาน ริเวอร์วอล์ค" เปิดเผยว่า หลังจากที่บริษัทเข้าซื้อกิจการในปากคลองตลาดและตลาดยอดพิมานตั้งแต่ปี 2553 นั้น ได้เริ่มมีการทำความเข้าใจและปรับปรุงพื้นที่การให้บริการภายในตลาดทั้ง2แห่งแก่ผู้ประกอบการร้านค้า และชุมชนใกล้เคียงในเรื่องของการปรับปรุงพื้นที่ขายภายในปากคลองตลาดให้มีความเป็นระเบียบและมีระบบมากขึ้น นอกจากนี้ยังสร้างแลนด์มาร์กแห่งใหม่ "ยอดพิมาน ริเวอร์วอล์ค" ขึ้นมาเพื่อดึงดูดกลุ่มนักท่องเที่ยวทั้งชาวไ

 

มาน ริเวอร์วอล์ค ก่อสร้างขึ้นภายใต้คอนเซ็ปต์ "ไทยเฮอร์ริเทจ มอลล์"  à¸•à¸±à¹‰à¸‡à¸­à¸¢à¸¹à¹ˆà¸£à¸´à¸¡à¹à¸¡à¹ˆà¸™à¹‰à¸³à¹€à¸ˆà¹‰à¸²à¸žà¸£à¸°à¸¢à¸² ปากคลองตลาด บนพื้นที่ 1.4 หมื่นตารางเมตร หรือ 15 ไร่ โดยมีพื้นที่ขายทั้งสิ้น 6.8 พันตร.ม. โดยมีค่าเช่าที่ 600-1.5 พันบาทต่อตร.ม.ต่อเดือน ภายใต้งบประมาณการลงทุน 1. 5 พันล้านบาท มีร้านค้าทั้งสิ้น 40 ร้านค้า ชั้นนำ ซึ่งปัจจุบันตัวอาคารก่อสร้างแล้วเสร็จไปกว่า 90% และมีกำหนดเปิดตัวอย่างเป็นทางในช่วงเดือนพฤศจิกายนนี้

ขณะที่เป้าหมายของยอดพิมาน ริเวอร์วอล์ค นับจากนี้คือการมุ่งมั่นพัฒนาเป็นแลนด์มาร์กทางน้ำแห่งแรก ควบคู่กับการเป็นฮับทางการสัญจรทางน้ำ ทั้งในเส้นทางปากเกร็ด และนนทบุรี เป็นต้น ซึ่งนอกจากการสัญจรทางน้ำตัวโครงการยังมีจุดเด่นที่การมีรถไฟฟ้าใต้ดินสถานีสนามไชย ซึ่งจะแล้วเสร็จในปี 2559 ห่างจากตัวโครงการเพียง 20 เมตร รวมถึงรถไฟฟ้า และท่าเรืออีกด้วย

ขณะที่การสร้างการยอดพิมาน ริเวอร์วอล์คให้เป็นที่รู้จักนั้น บริษัทจะเน้นสร้างจุดขายความเป็นตลาดเก่าแก่ของการขายดอกไม้ตลอด 24 ชั่วโมงในปากคลองตลาด รวมถึงการรวมกำลังกับทางสมาคมผู้ค้าธุรกิจในแม่น้ำเจ้าพระยา และอีก 6 โครงการริมแม่น้ำเจ้าพระยาขนาดใหญ่ทั้ง ดิ ไอคอน สยาม,เอเชีย ทีค โครงการ 1 และ2,โครงการท่ามหาราช และโครงการ เดอะ แลนด์ มาร์ค วอเตอร์ฟร้อนซ์ ในการร่วมกันโปรโมตย่านให้เป็นอีกหนึ่งย่านท่องเที่ยวชั้นนำ ไม่ว่าจะเป็นการจัดทำโปรโมชัน เพื่อกระตุ้นการท่องเที่ยวในย่านให้เป็นที่รู้จัก รวมถึงการให้นักท่องเที่ยวสามารถเที่ยวในกรุงเทพฯได้มากขึ้น จากเดิมที่กลุ่มนักท่องเที่ยวอยู่ในกรุงเทพฯเฉลี่ยเพียง 1.75 วัน แล้วก็จะเดินทางไปท่องเที่ยวในต่างจังหวัดอย่างพัทยาทันที เพิ่มเป็น 2.5 วัน

โดยกลุ่มเป้าหมายที่บริษัทวางไว้ประกอบไปด้วยกลุ่มลูกค้าที่อาศัยอยู่ในย่าน 30% ขณะที่อีก70% ที่เหลือจะเป็นกลุ่มนักท่องเที่ยวที่เข้ามาท่องเที่ยว โดยมีท่าเรือของโครงการทั้งหมด 4 ท่าเรือในการรองรับ ซึ่งประกอบไปด้วยท่าเรือปากคลองตลาดซึ่งเป็นท่าเรือที่ใช้ในการจอดเรือทัวริสต์ โบ๊ท (เรือธงฟ้า)ของนักท่องเที่ยว ที่มีการจับมือกับบริษัท เจ้าพระทัวร์ลิสโบ๊ต จำกัด ในการนำนักท่องเที่ยวเข้ามายังโครงการ ท่าเรือยอดพิมาน ริเวอร์วอล์ค ใช้ในการจอดท่าเทียบเรือสำหรับลูกค้าดินเนอร์ ครูซ ไม่ว่าจะเป็น เรือด่วนเจ้าพระยา เรือสำราญเจ้าพระยาครุยส์ เรือสำราญริเวอร์ไซด์ เรือแว่นฟ้าดินเนอร์ครุยส์ เรือสำราญเจ้าพระยาปริ้นซ์เซส ซึ่งเป็นเรือที่ให้บริการอาหารค่ำ ท่าเรืออัษฎางค์ ที่ใช้เป็นท่าเรือข้ามฟาก และท่าเรือสุดท้ายที่ยังไม่มีการตั้งชื่อ

นอกจากนี้ บริษัทยังได้เตรียมจับมือกับเรือโดยสารทั่วไปขนาดเล็ก 4-10 ที่นั่ง ขึ้นเพื่อเป็น แท็กซี่ โบ๊ต ทั้งหมด 30 ลำในการอำนวยความสะดวกให้แก่นักท่องเที่ยวในโครงการ ที่จะออกไปท่องเที่ยวในแม่น้ำเจ้าพระยาและคลองสาขาต่างๆ พร้อมกันนี้ยังได้เตรียมเปิดตลาดกลางคืน (ไนต์ มาร์เก็ต) บนชั้น 2 ของอาคารในตลาดยอดพิมาน ซึ่งถือเป็นอีกหนึ่งช่องทางในการเพิ่มจำนวนลูกค้า

"บริษัทตั้งเป้าว่าจะสามารถดึงดูดให้ผู้คนเข้ามาท่องเที่ยวได้ราว 2 หมื่นคนต่อวันทั้งภายในโครงการและในปากคลองตลาด จากปัจจุบันที่มีนักท่องเที่ยวเข้ามาทั้งสิ้น 3 พันคนต่อวัน ซึ่งมองว่าเป็นสิ่งที่ทำได้ไม่ยาก เพราะจำนวนนักท่องเที่ยวที่ทางเรือต่อวันอยู่ที่ 7, 000-10, 000 คนอยู่แล้ว ซึ่งหากเราสามารถดึงดูดนักท่องเที่ยวกลุ่มนี้ได้ 30% เราก็สามารถทำได้ตามเป้าหมายที่กำหนดแล้ว ด้านรายได้มองว่าจะสามารถคืนทุนได้ภายในระยะเวลา 5 ปี"

จากหนังสือพิมพ์ฐานเศรษฐกิจ ปีที่ 34 ฉบับที่ 2,972 วันที่  7 - 9  à¸ªà¸´à¸‡à¸«à¸²à¸„ม พ.ศ. 2557